นายก อบจ.ลำปาง ลงพื้นที่จุดท่องเที่ยวริมแม่น้ำวัง ติดตามและผลักดันโครงการถนนเลียบริมน้ำวังให้สำเร็จ

นางสาว ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ลงพื้นที่จุดท่องเที่ยวริมแม่น้ำวัง บริเวณขัวแตะสะพานดำ บ้านสบตุ๋ย และบ้านนาก่วม เป็นรอบที่สอง เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันโครงการถนนเลียบริมน้ำวังให้สำเร็จ โดยเชิญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ประจำนายสมศักดิ์ เทพสุทิน) นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ร่วมรับฟังข้อมูลเพิ่มเติม และชมกิจกรรมที่ชุมชนได้รับประโยชน์ เพื่อใช้นำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี
ตามที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้มีโอกาสเรียนนำเสนอโครงการพัฒนาพื้นที่ใต้สะพานดำพร้อมการก่อสร้างถนน และพนังกั้นน้ำเลียบริมฝั่งแม่น้ำวังในเขตเทศบาลเมืองเขลางค์นคร คู่กับโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมต่อ ระหว่างบ้านป่าเหมี้ยง อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ถึงบ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ต่อท่านนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ไปแล้วเมื่อครั้งที่เดินทางทางมาตรวจราชการในจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้ริเริ่มผลักดันโครงการถนนเลียบริมแม่น้ำวัง ร่วมกับสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง โดย อบจ.ลำปาง ได้เริ่มปรับสภาพพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำวังบริเวณใต้สะพานดำฝั่งบ้านสบตุ๋ย ซึ่งเดิมทีเป็นพื้นที่ป่ารกชัฏริมแม่น้ำ ที่ชุมชนเข้ามาใช้ประโยชน์ไม่ได้ มีปัญหาเรื่องน้ำกัดเซาะริมตลิ่ง ชาวชุมชนริมน้ำในเขตเทศบาลเมืองเขลางค์นครไม่มีเส้นทางสัญจรไปมาหาสู่กันโดยสะดวก
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ได้ปรับพื้นที่ชั่วคราวแล้วเสร็จ จึงเกิดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สร้างประโยชน์แก่ชุมชนโดยรอบ เช่น ชุมชนบ้านสบตุ๋ย(ฝั่งเทศบาลเมืองเขลางค์นคร) และชุมชนนาก่วม (ฝั่งเทศบาลนครลำปาง) ที่ได้ใช้ประโยชน์ในทันที มีการทำสะพานขัวแตะชั่วคราวเพื่อเชื่อมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำวัง เกิดความร่วมมือระหว่างชุมชน และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวริมน้ำแห่งใหม่ที่ได้รับความนิยมสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ในที่สุด

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง กล่าวว่า วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการปรับพื้นที่ในครั้งนี้ คือความพยายามในการผลักดันโครงการถนนเลียบริมแม่น้ำวังฝั่งเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ตั้งแต่บ้านสบตุ๋ยไปจนถึงชุมชนปงแสงทอง เนื่องจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางตระหนักว่า พื้นที่สองฝั่งแม่น้ำวังช่วงดังกล่าว มีความเหลื่อมล้ำกันในด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน คือในฝั่งของเขตเทศบาลนครลำปางนั้น มีความเจริญ และมีสิ่งอำนวยความสะดวก ถนนหนทาง ไฟส่องสว่าง และสภาพแวดล้อมที่ดีมาก ประกอบกับเมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยปรับปรุงพื้นที่ใต้สะพานดำ ฝั่งเทศบาลนครลำปาง สร้างพื้นที่สาธารณะที่มีภูมิทัศน์สวยงาม มีความรื่นรมย์ประชาชนใช้ประโยชน์ และกลายเป็นจุดท่องเที่ยว ในขณะที่ฝั่งตรงข้ามคือย่านบ้านสบตุ๋ยนั้น กลับไม่มีถนนริมน้ำ ไม่มีพนังกั้นน้ำ และไม่มีทางสัญจรแบบมาตรฐานตลอดลำน้ำ ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ริมฝั่งน้ำได้เลย 
ทั้งนี้ หากองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง สามารถผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ริมฝั่งน้ำ ให้ทั้งสองฝั่งให้มีความเจริญ สะดวกต่อประชาชนอย่างเท่าเทียมกัน ก็จะทำให้เกิดจุดแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ที่ประชาชน และนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำ ทำให้เกิดการท่องเที่ยว ประชาชนมีรายได้จากการค้าขาย มีความคึกคักทางเศรษฐกิจ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในเขตเทศบาลทั้งสองแห่ง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางที่ต้องการสร้างความเท่าเทียมกันทางด้านคุณภาพชีวิตของประชาชน ตามที่ได้กำหนดแนวทางการทำงานว่า “ลำปางยุคใหม่ โปร่งใส สร้างสรรค์ เท่าทัน เท่าเทียม”
สำหรับการเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ครั้งนี้ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย ส.อบจ. อำเภอเมือง เขต 5 นายภูมิสิทธิ์ อัครธรรมศิลป์ ได้ขอความร่วมมือจากหอการค้าจังหวัดลำปาง ทีมงานน้องชามชวนแลก จาก YEC Lampang โดยมีคุณกำพล ไชยวรรชะนะ รองประธานหอการค้าจังหวัดลำปาง คุณปิยวดี ทวีกิจจินดา รองประธาน YEC จังหวัดลำปางประธานโครงการน้องชามชวนแลก ร่วมกับ บริษัทบังอร รีไซคลิ่ง กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นสมาชิกหอการค้าจังหวัดลำปาง มาช่วยติดตั้งถังขยะแยกประเภท และจัดโครงการให้ความรู้เป็นแนวทางการคัดแยกมูลฝอยแก่ชุมชนบ้านสบตุ๋ย โดยจะมารับซื้อขยะที่คัดแยกแล้วเหล่านั้น ซึ่งเท่ากับเป็นการส่งเสริมการ “เปลี่ยนขยะเป็นเงิน” ช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชนในการบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวของชุมชนในอนาคต สร้างความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar